“Jabra Elite 10” และ “Jabra Elite 8 Active” ระบบเสียง Dolby Atmos มาพร้อมเทคโนโลยี Dolby Head Tracking ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การทำงานและการใช้ชีวิต.

บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด รุกตลาดส่งท้ายปี 66 จับมือกับ สตูดิโอเซเว่น ภายใต้ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด(มหาชน) ผู้ประกอบการค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของไทย ส่งหูฟังทรูไวร์เลส (True Wireless) ระดับพรีเมียม ภายใต้แบรนด์ “Jabra” (จาบร้า) 2 รุ่น ได้แก่ “Jabra Elite 10” และ Jabra Elite 8 Active” เข้ามาเสริมทัพตลาด

      Elite 10 โดดเด่นด้วยระบบเสียง Dolby Atmos ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Dolby Head Tracking รวมถึงประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนภายนอกที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด  โดยหูฟังทั้งสองรุ่นนี้นับเป็นหูฟังระดับไฮเอนด์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานและการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ

      ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด (ซ้าย) เปิดเผยว่า ความต้องการหูฟังมีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่นอกจากจะชื่นชอบการดูหนังฟังเพลง ใช้หูฟังในการทำงาน เพื่อการประชุมต่างๆบ่อยครั้ง รวมถึงผู้บริโภคยุคใหม่ยังใส่ใจสุขภาพ ทำให้การใช้หูฟังในการออกกำลังกายแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้หูฟังที่มีคุณภาพได้รับการตอบรับดีมากขึ้น

     อาร์ทีบีฯ ผนึกกำลังกับพาร์ทเนอร์อย่างสตูดิโอเซเว่น นำสุดยอดหูฟัง True Wireless รุ่นท็อป จากแบรนด์ Jabra” (จาบร้า) เข้ามาลุยตลาดพร้อมกันถึง รุ่น ได้แก่ Jabra Elite 10 และ Jabra Elite 8 Active

     “อาร์ทีบีฯ วางกลยุทธ์ นำเสนอหูฟังและลำโพงหลากหลายรุ่นเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้แก่กลุ่มธุรกิจหูฟัง พร้อมทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้าง”

     Ashim Mathur รองประธานฝ่ายการตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจาก Dolby Laboratories กล่าวว่า “ความร่วมกับจาบร้า เพื่อเปิดตัว Jabra Elite 8 Active ที่มาพร้อมระบบเสียง Dolby Audio และ Jabra Elite 10 ที่มาพร้อมระบบติดตามการเคลื่อนไหวของศรีษะ Dolby Head Tracking เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่น่าทึ่งให้กับลูกค้าในประเทศไทย

      วิมลมาลย์  วัฒนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า      จาบร้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบรับกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอยู่เสมอ จนเป็นที่มาของการพัฒนาหูฟัง 2 รุ่นล่าสุด

     โดย Jabra Elite 10 หูฟัง True Wireless พรีเมียม ออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตทุกรูปแบบ หูฟังตัวแรกของตระกูล Elite ที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และเทคโนโลยี Dolby Head Tracking ช่วยให้คุณได้ยินเสียงที่คมชัดสมจริงเสมือนอยู่ในสถานที่จริง มาพร้อมไดร์เวอร์ขนาด 10 มม. และระบบเสียง Spatial Sound เพื่อให้รับฟังเสียงเพลงได้อย่างเต็มอิ่ม

     และเทคโนโลยี Jabra Advanced Active Noise Cancellation ที่ช่วยให้ประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนภายนอกที่ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับมาตรฐานเดิมของ Jabra และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ตัว ทำให้เสียงสนทนาคมชัด สดใส ไม่ว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวจะเป็นอย่างไร ขณะที่ตัวหูฟังออกแบบมาให้พอดีกับสรีระ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ผสานเทคโนโลยี Jabra ComfortFit ที่ช่วยลดแรงดันภายในหู ทำให้สวมใส่ได้สบายตลอดทั้งวัน

     ขณะเดียวกันยังรองรับ Bluetooth Multipoint Connection ช่วยให้คุณเชื่อมต่อ อุปกรณ์ได้พร้อมกัน และสามารถสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงสามารถปรับแต่ง EQ และรูปแบบการใช้งานได้อย่างอิสระผ่านแอปพลิเคชัน Jabra Sound+ พร้อมมาตรฐานป้องกันละอองน้ำและฝุ่น IP57 และยังมี Google Fast Pair และ Microsoft Swift Pair ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่านบลูทูธได้อย่างรวดเร็ว แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 6 ชม. และเพิ่มเป็น 27 ชม.เมื่อใช้ร่วมกับตลับชาร์จ (เปิด ANC) โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สี Cream, Titanium Black และ Cocoa วางจำหน่ายในราคา 9,500 บาท

    Jabra Elite 8 Active เป็นหูฟัง True Wireless ที่อึดที่สุด โดยออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายทุกประเภท เพราะทนต่อทุกสภาพอากาศ สามารถใช้งานได้ในที่ๆ มีอุณหภูมิตั้งแต่ -20 ถึง 45 องศาเซลเซียส ผ่านการทดสอบมาตรฐานทางการทหารจากสหรัฐอเมริกา (MIL-STD-810h) ตัวหูฟังได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 1.5 เมตร รองรับแรงกระแทกจากการตกจากที่สูงได้ถึง เมตร และเป็นครั้งแรกที่ตัวเคสได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54 อีกด้วย ขณะเดียวกันมาพร้อมไดร์เวอร์ขนาด มิลลิเมตร และระบบเสียง Spatial Sound Powered by Dolby ช่วยให้เสียงที่คุณได้ยินสมจริงและมีมิติมากยิ่งขึ้นเสมือนได้ยินด้วยหูตัวเอง

    รวมถึงเทคโนโลยี Adaptive Hybrid Active Noise Cancellation ที่ให้ประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนภายนอกดีขึ้น 1.6 เท่า เมื่อเทียบกับมาตรฐานเดิมของ Jabra ดังนั้น ไม่ว่าจะเดินในที่ลมแรง หรือเป่าผมในห้องแต่งตัว เสียงจากภายนอกก็จะไม่เข้าไปรบกวนคุณ นอกจากนี้ยังมาพร้อมไมโครโฟนที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ ตัว ช่วยให้เสียงสนทนาของคุณคมชัด สดใส ในทุกๆ สภาพแวดล้อม ทั้งยังสวมใส่ได้อย่างกระชับและสบาย

     ด้วยเทคโนโลยี Jabra ShakeGrip ช่วยเพิ่มการยึดเกาะกับหูฟัง และรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทวอชผ่านเทคโนโลยี Bluetooth 5.3 และสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri และ Google Assistant ทำให้คุณไม่ต้องพกโทรศัพท์ระหว่างออกกำลังกายอีกต่อไป แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง ชั่วโมง เมื่อเปิด ANC และเพิ่มเป็น 32 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับตลับชาร์จ มีให้เลือกทั้งหมด สี ได้แก่ Navy, Caramel และ Dark Grey วางจำหน่ายในราคา 7,690 บาท

      สำหรับผู้ที่กำลังมองหาหูฟังคุณภาพระดับพรีเมี่ยมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ครบทุกด้านอย่างสมบูรณ์แบบ สามารถหาซื้อและสัมผัสประสบการณ์เสียงที่เหนือชั้นกว่าใครจากหูฟัง “จาบร้า” (Jabra) รุ่น Jabra Elite 10 และ  Jabra Elite 8 Active ได้แล้ววันนี้

Scroll to Top